Categories
News

แผลจากการดูดเหนียง แก้ม กรอบหน้า ใหญ่ขนาดไหน ?

แผลจากการดูดเหนียง แก้ม กรอบหน้า ใหญ่ขนาดไหน ? การดูดไขมันเหนียง แก้ม และกรอบหน้า ด้วย NeckTite ทำให้เกิดแผลเล็กมากๆ ประมาณ 0.1 – 0.3 mm. เท่านั้น และแพทย์จะเลือกทำการเปิดแผลซ่อนในบริเวณใต้คาง หรือ หลังใบหู เพื่อที่จะไม่ทำให้เห็นรอยแผล หลังจากแผลแห้งสนิท ก็สามารถใช้ครีมลดรอยแผลเป็นได้เช่นกัน

การดูแลตัวเองหลังดูดไขมันเหนียง แก้ม กรอบหน้า

หลังการดูดไขมันเหนียง ด้วย NeckTite สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ อาจมีอาการบวมเขียวช้ำได้ประมาณ 2 สัปดาห์ โดยไม่ส่งผลกับการใช้ชีวิตประจำวัน อาการบวมเขียวช้ำ จะลดลงภายในสัปดาห์ที่ 3 ตามลำดับ

– หลีกเลี่ยงไม่ควรให้แผลเปียกชื้น หากแผลเปียกน้ำควรซับให้แห้ง จนกว่าแผลจะแห้งสนิท
– ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้เกิดการบวมและแผลหายช้ากว่าปกติ
– ควรใส่สายรัดบริเวณคาง อย่างน้อยประมาณ 1 สัปดาห์
– ควรทานยาให้ครบตามที่แพทย์จ่ายให้ และกลับมาพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง

NeckTite ต้องรักษากี่ครั้งจึงจะเห็นผล?

การดูดไขมันเหนียง NeckTite ทำเพียงครั้งเดียวก็สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ค่อนข้างชัดเจน โดยไม่ทิ้งร่องรอยแผลขนาดใหญ่ไว้กวนใจ และยังทำให้ผิวบริเวณที่ทำการดูดไขมัน กระชับในครั้งเดียว ไม่จำเป็นต้องมาทำคอร์สกระชับหลังทำการดูดไขมัน
*ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างไปแต่ละบุคคล

– ทำไมต้องดูดไขมันเหนียง แก้ม กรอบหน้า กับคุณหมอลูกหนู
– ความน่าเชื่อถือของคลินิก

ควรพิจารณาหลาย ๆ อย่างประกอบกัน ทั้งทีมแพทย์ที่ทำการรักษา เป็นแพทย์จริงไหม เป็นผู้เชี่ยวชาญหรือไม่ ดูสถานที่ตั้ง บรรยากาศของคลินิก อ่านรีวิว ดูผลลัพธ์การรักษาจากเคสที่ผ่านมา รวมถึงการให้คำแนะนำเกี่ยวกับบริการอย่างถูกต้องและครบถ้วน

1. วิธีการดูดไขมัน หรือเครื่องดูดไขมัน

ผลลัพธ์หลังดูดไขมันด้วยเครื่องดูดไขมันแต่ละเครื่อง แต่ละพลังงาน จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของสภาพผิวหลังดูดไขมัน ระยะเวลาในการพักฟื้น เป็นต้น คนไข้ควรศึกษาเบื้องต้นว่าแต่ละเครื่องมีข้อดีข้อเสียอย่างไร หรือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม ว่าเราเหมาะสมกับเครื่องดูดไขมันแบบไหน หากต้องการดูดไขมัน แล้วนำไขมันไปเติมต้องใช้เครื่องพลังงานอะไร เครื่องดูดไขมันแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร

2. มีทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญ ด้านการดูดไขมันโดยตรง

เมื่อเจอคลินิกที่มั่นใจ ให้ศึกษาข้อมูลของแพทย์ที่จะทำการรักษาด้วย ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญจริงหรือไม่ มีประสบการณ์มากน้อยเพียงใด หรือการเข้ารับการปรึกษากับแพทย์คนดังกล่าว ให้คำปรึกษาที่ถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ ตรงจุดที่เราต้องการไหม แพทย์จะต้องอธิบายปัญหา คลายข้อสงสัย และนำเสนอแนวทางการรักษาที่ถูกต้องและปลอดภัยให้คนไข้ได้ นอกจากนี้แพทย์ยังต้องพูดคุย ซักประวัติคนไข้ เพื่อประเมินเกี่ยวกับโรคประจำตัว ดูความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น เพราะอาจจะมีผลกระทบต่อผลลัพธ์หลังการดูดไขมันได้

3. มีเครื่องมือที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน และปลอดภัย

เครื่องมือในการดูดไขมัน อุปกรณ์ทางการแพทย์ต้องได้รับการฆ่าเชื้ออย่างถูกวิธี ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรอง ความสะอาดของห้องผ่าตัด รวมถึงการมีเครื่องมือพื้นฐานทางการแพทย์และอุปกรณ์สำหรับกรณีฉุกเฉิน เพื่อรองรับความปลอดภัยให้กับคนไข้

4. มีการบริการหลังการดูดไขมัน จากทีมบุคลากรด้าสนการดูแลหลังดูดไขมันโดยตรง

การบริการที่ดี เอาใจใส่ลูกค้า ตั้งแต่ขั้นตอนแรก การตอบกลับ การให้คำแนะนำ ไปจนเสร็จสิ้นการรักษา จะช่วยเพิ่มความไว้วางใจ ความเชื่อใจ และความสบายใจแก่คนไข้ รวมถึงแสดง ความรับผิดชอบ หากมีปัญหาอะไรในภายหลัง สถานพยาบาลจะยินดีช่วยท่านแก้ปัญหาหรือไม่

5. วิธีการระงับความเจ็บในการดูดไขมัน

การดูดไขมันมีทั้งแบบที่ใช้ยาสลบ และยาชา การใช้ยาสลบจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับแพทย์มากยิ่งขึ้น แต่คนไข้จะไม่รู้สึกตัว ไม่ได้สติ ส่วนการใช้ยาชา คนไข้จะรู้สึกตัวตลอดเวลา ลดความเสี่ยงจากการวางยาสลบ คนไข้สามารถพูดคุยกับแพทย์ในระหว่างดูดไขมันได้ ช่วยให้ลดความกังวลไปได้ระดับหนึ่ง ก่อนการใช้ยาชานั้น แพทย์จะมีการคำนวณปริมาณยาชาที่จะใช้ สำหรับคนไข้แต่ละเคสอย่างเหมาะสม ไม่ให้มาก หรือน้อยเกินไป เพื่อความปลอดภัยของตัวคนไข้เอง

6. รีวิวจากผู้ใช้บริการจริง

ควรดูรีวิว หรือการแชร์ประสบการณ์ดูดไขมัน ของคนไข้จริงที่ทำในสถานพยาบาลดังกล่าว ว่าเป็นอย่างไร หรือดูจาก แชร์ประสบการณ์ดูดไขมันจะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการประกอบการตัดสินใจ และดูความน่าเชื่อถือของคลินิกดังกล่าวได้